๓.๕ ประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

จัดขึ้นในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๔ ของทุกๆ ปี

ประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

       “พระเขี้ยวแก้ว” เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ ประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานพระพุทธบาทสระบุรี ทั้งพระและประชาชนต่างเชื่อกันว่า สร้างขึ้นจากพระทนต์ธาตุของพระพุทธเจ้า ด้วยเหตุนี้ในทุกวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี ที่อำเภอพระพุทธบาท ได้ร่วมกันจัดงานประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้วขึ้น
     พิธีเริ่มจากการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากพิพิธภัณฑ์ออกแห่ฉลองรอบเมืองพระพุทธบาท โดยมีความเชื่อกันว่า เมื่อจัดพิธีแห่พระเขี้ยวแก้วเพื่อเป็นการสักการะแล้ว จะดลบันดาลให้ ประชาชนได้รับความร่มเย็นเป็นสุข ทำมาค้าขายดีกันทั่วหน้า เป็นการจัดงานประจำปีของอำเภอพระพุทธบาท

ประวัติพระเขี้ยวแก้ว

ประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว พ.ศ.2455 ที่เมืองพระพุทธบาท ได้เกิดโรคระบาด ประชาราษฎร์ได้เกิดการเจ็บป่วยล้มตายไป เป็น อันมาก พร้อมทั้งเกิด ทุพภิกขภัย อดอยาก ฝนแล้ง แห้งน้้า ได้รับ ความเดือดร้อน เป็นที่ยิ่ง ผู้ปกครองพระพุทธ บาทในสมัยนั้นจึงอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากวิหารคลังบนออกแห่ แล้วเชิญประชาชน ร่วมขบวนและถวายน้้า สรงพระเขี้ยวแก้ว เกิดในวันนั้นเอง ได้มีฝนตกกระหน่้ามาอย่างหนัก ท้าให้ประชาราษฎร์ และพฤกษชาตินานา พันธุ์ได้รับความชุ่มเย็นอันเกิดจากฝนนั่นเอง จึงได้ปฏิบัติเป็นประเพณี เรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เอง ประชาชนชาวพระพุทบาทจึงได้สืบทอดประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว เป็นประจ้าทุกปี ในวันขึ้น 7 ค่้า เดือน 4 โดยมีความเชื่อว่า หากมีการแห่พระเขี้ยวแก้วแล้วจะสามารถบันดาลให้ประชาชนชาวพระพุทธบาทได้รับ ความ ร่มเย็นเป็นสุข เพื่อความร่มเย็นและสงบสุขของชาวพระพุทธบาท ท้ามาค้าขายกันดีทั่วหน้า ( เชื่อกันว่า ในวัน ขึ้น 7 ค่้า เดือน 4 เป็นวันการแห่พระเขี้ยวแก้วครั้งแรก จึงยึดถือเอา วันขึ้น 7 ค่้า เดือน 4 นี้ เป็นวันแห่พระ เขี้ยวแก้วฯ สืบมาทุกปี) ชาวพุทธเชื่อกันว่า พระเขี้ยวแก้ว เป็นพระทนต์ (ฟัน) ของสมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ซึ่งในวันขึ้น 1 ค่่า เดือน 4 ของทุกปี จะมีการจัดงานของชาวอ่าเภอพระพุทธบาท โดยอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากพิพิธภัณฑ์วัด พระพุทธบาทราชวรมหาวิหารออกแห่ฉลองไปรอบเมืองพระพุทธบาท โดยมีความเชื่อว่า หากมีการแห่พระ เขี้ยวแก้วแล้วจะสามารถบันดาลให้ประชาชนชาวพระพุทธบาทได้รับความร่มเย็นเป็นสุข ท่ามาค้าขายดีกันทั่ว หน้า และเป็นการจัดงานประจ่าปีของอ่าเภอพระพุทธบาท ซึ่งปีนี้จะมีงานในวันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2551 ประเพณีงานแห่พระเขี้ยวแก้ว ตามพงศาวดารกล่าวไว้ว่า พระเขี้ยวแก้วคือฟันของพระพุทธเจ้าที่เหลือไว้เป็นปู ชนียวัตถุ มี ๔ องค์ 1. ประดิษฐานอยู่ที่จุฬามณีเจดีย์ดาวดึงส์เทวโลก 2. ประดิษฐานอยู่ ณ เมืองกาลึงคราษฎร์ ประเทศอินเดีย 3. ประดิษฐานอยู่ที่ใต้บาดาลอันมีนามว่า นาคพิภพ 4. ประดิษฐานอยู่ประเทศลังกา หรือลังกาทวีป ปัจจุบันได้อัญเชิญมาอยู่ที่พระพุทธบาท สระบุรี ตั้งแต่ สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศครองกรุงศรีอยุธยา ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารหลวง โดยอยู่ในวิหารคลัง บนในเจดีย์จุฬามณี กาลเวลาล่วงเลยมาจนถึงปี พ.ศ.๒๔๕๕ ที่เมืองพระพุทธบาท ได้เกิดโรคระบาด ประชาราษฎร์ได้ เกิดการเจ็บป่วยล้มตายไป เป็นอันมาก พร้อมทั้งเกิด ทุพภิกขภัย อดอยาก ฝนแล้ง แห้งน้่า ได้รับ ความ เดือดร้อน เป็นที่ยิ่ง ผู้ปกครองในสมัยนั้นจึงอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากวิหารคลังบนออกแห่ แล้วเชิญประชาชน ร่วมขบวนและถวายน้่าสรงพระเขี้ยวแก้ว เกิดในวันนั้นเอง ได้มีฝนตกกระหน่่ามาอย่างหนัก ท่าให้ ประชาราษฎร์ และพฤกษชาตินานาพันธุ์ได้รับความชุ่มเย็นอันเกิดจากฝนนั่นเอง จึงได้ปฏิบัติเป็นประเพณี เรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เองประชาชนชาวพระพุทธบาทจึงได้สืบทอดประเพณีแห่พระเขี้ยวแก้ว เป็น ประจ่าทุกปี ในวันขึ้น ๗ ค่่า เดือน ๔ เพื่อความร่มเย็นและสงบสุขของชาวพระพุทธบาท

อ้างอิง

1.กระทรวงวัฒนธรรม, ประวัติพระเขี้ยวแก้ว, https://www2.m-culture.go.th/ แหล่งที่มา

https://www2.m-culture.go.th/saraburi/ewt_dl_link.php?nid=751&filename=index

2. รูปภาพอ้างอิงจาก https://workpointtoday.com/สืบสานประเพณี-แห่พระเขี/

Youtube แนะนำ เทศกาลแสงเทียนแห่งศรัทธาน้อมถวายผ้าพระพุทธฉาย