๔.๗ ตาลาปัตย์

ตาลปัตร (อ่านว่า ตาละปัด) ตามรูปศัพท์แปลว่า พัดใบตาลพัดใบลาน

ตาลปัตร ของเดิมเป็นพัดที่ทำจากใบตาลหรือใบลานสำหรับพัดตัวเองเวลาร้อนหรือพัดไฟ ใช้กันทั้งพระและคฤหัสถ์ ต่อมามีการต่อด้ามให้ยาวขึ้นและใช้บังหน้าเวลาทำพิธีทางศาสนาของพระสงฆ์ เช่นในเวลาให้ศีลและให้พร และแม้ภายหลังจะใช้ผ้าสีต่างๆ หุ้มลวดหรือไม้ไผ่ซึ่งขึ้นรูปเป็นพัดก็อนุโลมเรียกว่าตาลปัตร

ตาลปัตร ปัจจุบันนิยมปักลวดลายศิลปะแสดงสัญลักษณ์ของงานและอักษรบอกงานพร้อมวันเดือนปีไว้ด้วย ทำให้มีคุณค่าทางศิลปะขึ้นนอกเหนือจากวัตถุประสงค์เดิม

ตาลปัตร ที่ใช้ทั่วไปเรียกว่า พัดรอง เป็นคู่กับคำว่า พัดยศ ซึ่งเป็นพัดพระราชทานบอกตำแหน่งชั้นสมณศักดิ์ จึงนิยมเรียกันว่า ตาลปัตรพัดยศ

พัดรองที่ละลึกในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๗ ดิถีครบ ๓ รอบ เฉลิมนักกษัตริย์ปีมะเส็ง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒

พัดเปรียญ ๙ ประโยค สมัยรัชกาลที่ ๖ พระราชทานให้พระภิกษุในสำนักเรียนสมุหประดิษฐาราม จังหวัดสระบุรี

พัดรองที่ละลึกในงานพระศพหม่อมเจ้าฉวีวิลัย คัคณางค์ ชายาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัตนวิศิษฎ์ พ.ศ. ๒๔๗๕ มีข้อความคือคาถาพระราชนิพนธ์ปัจฉิมวาจาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ชฎายอดนาค ทำเป็นลักษณะเดียวกับหัวโขน ใช้สำหรับสวมศีรษะนาคเมื่อจะเข้าโบสถ์

ฝาบาตร พร้อมเชิงบาตร ประดับมุก เป็นสิ่งของอุทิศถวายในพระศาสนาของพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าเจริญศรีชนมายุ พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแสง

ข้อมูลทั้งหมดในส่วนนี้ (รูปและรายละเอียด) อ้างอิงจากหนังสือ “มรดกเมืองสระบุรี  The Heritage of Saraburi ประมวลภาพมรดกทางวัฒนธรรมและสิ่งของล้ำค่าของจังหวัดสระบุรี”  จัดพิมพ์ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี  จัดพิมพ์ครั้งที่ ๑ ปี ๒๕๖๓