๓.๖ ประเพณีการสรงน้ำเสาตะเคียนทองวัดสูง

จัดขึ้นในวันที่ 13 เมษายน ของทุกๆ ปี

     ประเพณีการสรงน้ำเสาต้นตะเคียนทองวัดสูง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ บริเวณหน้าอุโบสถวัดสูง ตำบลเสาไห้ อำเภอเสาไห้ จัดขึ้นในช่วงสงกรานต์ หรือวันที่ 13 เมษายน งานเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าด้วยพิธีทำบุญตักบาตรต่อด้วยรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ จากนั้นจึงมาถึงการปิดทองสรงน้ำเสานางตะเคียนทอง (เส้าร้องไห้) นอกจากจะเป็นการร่วมทำกิจกรรมของชาวบ้าน ในการสืบสานประเพณีอันดีงามมาแต่โบราณแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นเตือน ให้ลูกหลานร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีโบราณสืบต่อไปด้วย

ตำนานเสาร้องไห้ วัดสูง

วัดสูง อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เป็นที่เก็บรักษาเสาไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่ประดิษฐานอยู่ในวิหารคือ “พระศรีพุทธมงคลมุนี” เป็นพระปางมารวิชัย สร้างด้วยศิลาแลง ศิลปะสมัยอยุธยา

ตำนานเสาร้องไห้ เป็นตำนานของเจ้าแม่ตะเคียนทองที่ตั้งอยู่ในศาลนางตะเคียนทอง ณ วัดสูง ตำบลเสาไห้ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเสาไห้ประมาณ ๕๐๐ เมตร เป็นเสาไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ โดยถือกันว่าเป็นเจ้าแม่ เพราะสิ่งของที่นำไปบูชาล้วนเป็นของสตรีทั้งสิ้น มีตำนานเล่ากันว่า เมื่อครั้งสร้างกรุงเทพฯ เป็นราชธานี ได้มีการเกณฑ์เสาจากหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อคัดเลือกเสาที่มีลักษณะงดงาม เพื่อจัดเป็นเสาเอก ทางเมืองสระบุรีได้จัดส่งเสาต้นหนึ่งที่มีลักษณะงดงามมากล่องลงมาตามลำน้ำป่าสัก แต่มาถึงกรุงเทพฯ ช้าไปเล็กน้อย และได้มีการคัดเลือกเสาเอกไปก่อนแล้ว จึงได้เป็นเสารอง ซึ่งถ้าเสาต้นนี้มาทันเวลาก็ต้องได้เป็นเสาเอกอย่างแน่นอน เพราะมีลักษณะใหญ่ และสวยงามมาก ด้วยความยาว ๑๓ เมตร กล้าว ๐.๗๕ เมตร เสาต้นนี้จึงเกิดความเสียใจลอยทวนน้ำกลับขึ้นมาจมลง ณ ตำบลแห่งนี้อยู่ประมาณ ๑๐๐ กว่าปี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ได้มีชาวบ้านนำขึ้นจากน้ำไปไว้ที่ศาลหน้าพระอุโบสถวัดสูงจนถึงปัจจุบันนี้ พอตกเวลากลางคืนชาวบ้านมักได้ยินเสียงร้องไห้ จึงได้ให้ชื่อตำบลนี้ว่า ตำบลเสาร้องไห้ และได้กลายเป็น “อำเภอเสาไห้” ในปัจจุบัน

เมื่อประมาณปี ๒๕๐๑ นางเฉลียว จันทร์ประสิทธิ์ ได้ฝันว่ามีหญิงคนหนึ่ง บอกว่าเป็นนางไม้ประจำเสาที่จมน้ำอยู่ ให้บอกสามีเอาเสาขึ้นมาจากน้ำด้วย นายเผ่าผู้เป็นสามีก็ไม่เชื่อ มีคนเล่าต่อกันมาว่า นางไม้ของเสาต้นนี้ได้ไปเข้าทรงกับผู้อื่นอีกหลายครั้ง จนในที่สุดชาวบ้านหลายคนก็ได้ไปร้องขอให้นายเผ่าเอาเสาต้นนี้ขึ้นมาให้ได้ ตามคำล่ำลือ จนนำมาสู่การนำเอาเสาขึ้นมาจากน้ำ เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๐๑ และในวันนี้เอง ได้รับคำบอกเล่าจากนายจำลอง ขาววรรณะว่า วันนั้นแดดร้อนจัดมากขณะที่กำลังนำเสาขึ้นจากน้ำ ท้องฟ้าก็มืดครื้มไปหมดทันที มีเสียงฝ้าผ่าดังมากเป็นประกายสีเขียวไปทั่ว เสียงฟ้าร้องคำรามทำท่าคล้ายฝนจะตก ทำให้ผู้คนที่มาเข้าร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมากต่างตื่นตาตื่นใจ

วันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๐๑ เป็นวันที่เชิญเสาไปประดิษฐานที่วัดสูง เวลา ๙.๐๐ น. เริ่มพิธีเคลื่อนเสาไปสู่วัดสูง โดยตั้งศาลสูงเพียงตา มีหัวหมูซ้ายขวา บายศรี ๓ ชั้น ใช้ด้ายสายสิญจน์ผูกที่เสาแล้วใช้เชือกผูกแพที่รับเสาไห้ประชาชนดึง เมื่อได้ฤกษ์ พระสงฆ์ ๙ รูปเจริญชัยมงคลคาถา ประชาชนที่อยู่บนฝั่งหน้าที่ว่าการอำเภอเสาไห้ก็ดึงเชือกแพลูกบวบให้เคลื่อน ไปทางทิศตะวันออก มีเรือแตรวงนำขบวน มีเรือต่างๆร่วมขบวนอีกเป็นจำนวนมาก

ในวันนั้นที่นำเสาขึ้นจากน้ำมีประชาชนมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมากประมาณสามหมื่นคน นับเป็นวันประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของชาวอำเภอเสาไห้ที่ต้องจารึกไว้ ต่อมาจึงได้สร้างศาลถาวรขึ้นที่หน้าพระอุโบสถในวัดสูง เป็นศาลกว้าง ๔ เมตร ยาว ๑๕ เมตร มีมุขออกด้านตะวันออก พื้นคอนกรีต มีฐานก่ออิฐสูงรองรับเสาตะเคียน ต่อมาเมื่อวัดสูงได้สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้น จึงได้ดัดแปลงศาลาการเปรียญหลังเดิมเป็นอาคารทรงไทยสวยงาม และอัญเชิญเสาแม่นางตะเคียนมาประดิษฐานที่ศาลหลังใหม่ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาจนถึงทุกวันนี้

อ้างอิง

1. ตำนานเสาร้องไห้ วัดสูง แหล่งที่มาhttps://www.facebook.com/media/set/?set=a.545520922161799.1073742099.120222764691619&paipv=0&eav=AfY2bO3f2-JojCn1SZ5FbOV1orYh2YW1_4-0IXmQv3oxCGyWh6fC2z1_x_K-8o0Jo1g&_rdr ค้นเมื่อ 23 เมษายน, 2567.

2. web site สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี, ประเพณีตักบาตรดอกไม้ จังหวัดสระบุรี. https://library.tru.ac.th แหล่งที่มา

https://library.tru.ac.th/index.php/saracul?view=article&id=426:sacul05&catid=38 ค้นเมื่อ 23 เมษายน, 2567.

3. รูปภาพจาก https://ratchaburinews.blogspot.com/2017/04/blog-post_26.html

Youtube แนะนำเสาตะเคียนทองวัดสูง